ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้าง 1,500 ล้านเยน “Everest: Kamigami no Itadaki” (Everest: the Summit of Gods) ที่มีสุดยอดซุปตาร์ โอคาดะ จุนอิจิ (Okada Junichi) แห่ง V6 และ อาเบะ ฮิโรชิ (Abe Hiroshi) นำแสดง ได้ฤกษ์ปล่อยเทรลเลอร์ตัวอย่างสุดระทึกออกมาให้ชมกันผ่านทางออฟฟิเชียลเว็บไซต์ เพื่อแสดงความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนดีเดย์ส่งเข้าฉายในญี่ปุ่น 12 มีนาคม 2016
“Everest: Kamigami no Itadaki” เป็นภาพยนตร์ที่อ้างอิงเนื้อหามาจากบทประพันธ์ดั้งเดิมของ ยูเมะมาคุระ บากุ (Yumemakura Baku) เล่าเรื่องราวของ ฟุกะมาจิ มาโกโตะ (รับบทโดย โอคาดะ จุนอิจิ) ช่างภาพหนุ่มที่บังเอิญไปพบเข้ากับกล้องถ่ายภาพที่คาดว่าน่าจะเป็นของนักไต่เขาชาวอังกฤษ จอร์จ มัลลอรี (George Mallory) ผู้ที่หายตัวไปในยอดเขาเอเวอเรสต์ก่อนจะพบร่างของเขาในปี 1999 มาโกโตะ ติดใจหลงใหลในชีวประวัติของ มัลลอรี ว่าเขาสามารถพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกลูกนี้ได้หรือไม่ เขาจึงตัดสินใจเริ่มต้นการปีนเขาของตัวเองไปพร้อมกับนักปีนในตำนาน โจจิ ฮาบุ (รับบทโดย อาเบะ ฮิโรชิ) นักไต่เขาอัจฉริยะผู้แยกตัวเองออกมาจากสังคมเนื่องด้วยบุคลิกเป็นคนใจร้อนบุ่มบ่าม โดยนอกจาก โอคาดะ จุนอิจิ และ อาเบะ ฮิโรชิ ยังมีนักแสดงสาว มาชิโกะ โอโนะ (Machiko Ono) ที่รับบทเป็น คิชิ เรียวโกะ หญิงสาวที่มีใจรักในการปีนเขาผู้ซึ่งพยายามออกตามหา มาโกโตะ ร่วมด้วย Taki Pierre, Komoto Masahiro, Kazama Shunsuke, และ Sasaki Kuranosuke ที่จะมาเป็นกำลังหนุนค้ำจุนให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์แห่งตำนานอีกหนึ่งเรื่อง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยอดเขาเอเวอเรสต์ และ จอร์จ มัลลอรี (George Mallory)
ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest) เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัยและเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต ซึ่งเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย คนทั่วไปจดจำชื่อเอเวอเรสต์ได้ในฐานะยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูง 8,844.43 เมตร (29,017 ฟุต 2 นิ้ว) จากระดับน้ำทะเล
ในปี ค.ศ. 1924 คณะเดินทางจากอังกฤษคณะที่สามเดินทางเข้าใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ จอร์จ มัลลอรี (George Mallory) และ แอนดรู เออร์ไวน์ (Andrew Irvine) ตัดสินใจเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา การเดินทางของเขาทั้งสองในครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ไม่มีวันหวนกลับ วันที่ 8 มิถุนายน เวลา 12.50 น. นักเดินทางคนอื่นๆ เห็นทั้งสองอยู่ไม่ไกลจากยอดเขา จากนั้นมีเมฆลอยมาปกคลุม และไม่มีใครเห็นทั้งสองคนนี้อีกเลย ในปี ค.ศ. 1979 หวังฮงเป่า (Wang Hongbao) นักปีนเขาชาวจีนบอกกับเพื่อนร่วมทางว่าเขาพบศพศพหนึ่งในปี ค.ศ. 1975 และนั่นน่าจะเป็นศพของ เออร์ไวน์ แต่โชคไม่ดีที่ หวังฮงเป่า ตกเขาเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้บอกอะไรเพิ่มเติม ในปี ค.ศ. 1999 คณะเดินทางวิจัยมัลลอรี-เออร์ไวน์ (Mallory and Irvine Research Expedition) ได้พบศพของ มัลลอรี ใกล้แคมป์จีนเก่า ส่วนศพของ เออร์ไวน์ นั้นแม้จะมีการค้นหาอย่างหนักหน่วงในปี ค.ศ. 2004 แต่ก็ยังไม่พบ
เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักปีนเขาว่า มัลลอรี และ เออร์ไวน์ ได้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์แล้วหรือไม่ นักปีนเขาส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า มัลลอรี และ เออร์ไวน์ ได้ไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าทั้งคู่ได้ไปถึงหินขั้นที่สอง (การไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์จากทางด้านเหนือต้องผ่านหินสามขั้น) แต่นักปีนเขาทั้งหลายเชื่อว่าถ้าทั้งคู่ผ่านตรงนี้ไปได้ การไปถึงยอดเขาก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก เพราะไม่มีอุปสรรคใหญ่ใดๆ อีกแล้ว
Credit: jnewseng, jnews1, everest-movie