ผลงานการประพันธ์ของ “โอโตะตาเกะ ฮิโรทาดะ” (Ototake Horotada) เรื่อง “Daijoubu 3 Gumi” ได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดยสมาชิกวง TOKIO “โคคุบัน ไทจิ” (Kokubun Taiji) (37) ซึ่งโคคุบัน ได้ห่างหายจากจอเงินไปนับจากที่เขาได้รับรางวัลจากผลงานเรื่อง “Shaberedomo Shaberedomo” ในปี 2007 …

“โอโตะตาเกะ” โด่งดังจากผลงานบันทึกประจำวันที่ขายดีที่สุด ที่มีชื่อว่า “Gotai Fumanzoku” (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในชื่อ “No One’s Perfect”) และในครั้งนี้ “Daijoubu 3 Gumi” ที่เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวของโอโตะตาเกะเอง เมื่อสมัยที่ยังเป็นคุณครูในโรงเรียนประถมนั้น ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตในห้องเรียน เรื่องราวเกี่ยวพันกับเรื่องของครูหน้าใหม่ที่มีชื่อว่า “อากาโอะ ชินโนะสุเกะ” (Akao Shinnosuke) ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นเนื่องจากเขาเกิดมาไม่มีทั้งแขนและขา


“โอโตะตาเกะ” ผู้ซึ่งเกิดมาไม่มีแขนขาทั้ง 2 ข้าง จากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ด้วยโรค “tetra-amelia” จะเริ่มต้นการแสดงทางจอเงินของเขาด้วยบทของ “Akao” และเพื่อนเล่นตั้งแต่สมัยยังเด็กของ “Akao” ที่ชื่อ “Shiraishi” (แสดงโดย Kokubun) ที่ซึ่งเป็นสมาชิกฝ่ายวิชาการของโรงเรียน ได้ช่วยเหลือเขาให้ทำความฝันให้สำเร็จด้วยการกลายมาเป็นครู ถึงแม้ว่าบทของเรื่องนี้ จะเขียนออกมาจากมุมมองความคิดของ “โอโตะตากะ” แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่ออกมาจากมุมมองของ “Shiraishi” ที่ซึ่งทำงานร่วมกับ “Akao” และมีประสบการณ์หลากหลายร่วมกัน หลังจากที่พวกเขาต้องรับมือกับกลุ่มเด็กนักเรียนเกรด 5 จำนวน 28 คน อีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ ยังมี “Yo Kimiko” และ “Taguchi Tomorowo” ที่ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย สำหรับนักเรียนในชั้นทั้ง 28 คนนั้น ได้คัดเลือกมาจากการออดิชั่นเด็กๆ กว่า 300 คนเลยทีเดียว มีการกล่าวว่าเพื่อให้การเก็บรายละเอียดปฏิกิริยาตอบสนองของเหล่านักเรียนเป็นไปอย่างถูกต้อง ฉากการพบเจอระหว่างเด็กๆกับโอโตะตาเกะเป็นครั้งแรกนั้น ก็ถูกเลื่อนออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตารางการถ่ายทำด้วย

ทางด้านผู้กำกับการแสดง ก็ได้ “Hiroki Ryuichi” (จากผลงานเรื่อง “Keibetsu,” “Yomei Ikkagetsu no Hanayome”) กำหนดการถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีหน้านี้ และทางด้าน “Toho” ได้วางแผนที่จะเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2013

หลังจากการตีพิมพ์ผลงานเรื่อง “Gotai Fumanzoku” ออกไปนั้น ทางด้านของ “โอโตะตาเกะ” ก็ได้ทำอาชีพหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าวและนักเขียนคอลัมน์กีฬา เขาเริ่มต้นทำงานร่วมกับฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยชินจูกุ ในปี 2005 และตั้งแต่ปี 2007 เขาได้ไปเป็นครูโรงเรียนประถมเป็นเวลา 3 ปี

Credit : Eiga.com, Tokyograph